วันนี้ผมทำความฝันของผมเสร็จไปอีกอย่าง คือการอ่านนิยาย oreimouto ถึงเล่ม 10 ได้
(ตอนนี้มีเล่ม 11 แล้วแต่ตอนตั้งเป้ารู้สึกมันจะเล่ม 9-10 นี่แหละ)
ไหนๆก็ไหนๆผมเขียนเรื่องของผมดีกว่า ยาวมากมาย แต่เป็นเส้นทางสู่ความฝันของผมนะ
ดูแล้วเป็นความฝันที่เล็กกระจิ๋วมาก แต่สำหรับผมมันใหญ่พอควรนะ
ผมซื้อเล่ม 1 มาตอนเปิดเทอม ม หก ด้วยความรู้ที่อ่านฮิรางานะยังไม่ค่อยคลอ่งแกรมม่า กากจมดิน
(ตอนนี้ก็ยังกาก แต่ตอนนั้นกากกว่านี้เยอะ) โดนคนรอบข้างที่เรียนไปก่อนแซวพอสมควร
"โธ่เอ้ยความรู้แค่นี้จะอ่านไปอ่านง่ายๆก่อนไป๊ นี่ๆ คันจินี้อ่านได้ป่ะๆ"
ผม "..........อ่านไม่ได้ครับ "
"โธ่กะอีแค่นี้อ่านไม่ออกยังจะทำแน่ไปอ่านเร้อ ไม่ไหวหรอก"
เจ็บใจครับ แต่ก็ต้อยอมรับในความไร้ความสามารถของตนเอง แต่ถึงกระนั้น ชอบก็คือชอบครับ จะยากจะง่ายมันเป็นเงื่อนไขที่ผมต้องทำให้ได้ ผมเชื่ออย่างนั้นแล้วบอกกับตัวเองเสมอว่า ถ้าพยายามมันก็ต้องทำได้สิน่า คนเหมือนกัน ผมพยายามไม่ดูถูกตัวเองแม้สภาพแวดล้อมจะดูถูกผมไม่หยุดไม่หย่อน แน่นอนว่าผมไม่ได้บอกอะไรว่า ผมจะอ่านให้ได้นะ ผมแค่ตัดสินใจเงียบๆคนเดียว
ถ้าความรู้ไม่พอก็ต้องหาจนเติมเต็มจนอ่านได้ ถ้าไม่เข้าใจก็ต้อง ถาม,ศึกษาจนกว่าจะเข้าใจเท่านั้นแหละเฟ้ย ผมคิดอย่างนี้และเริ่มหาช่องทาง เน็ตก็ดี อาจารย์ก็ดี หนังสือก็ดี ผมก็ดิ้นรนในแบบของผมไป
ครึ่งปีผ่านไป ผมยังอ่านเล่ม 1 ไม่ถึงครึ่ง
น่าอายไหมล่ะครับ กะอีแค่หนังสือเล่มเล็กๆเล่มเดียว ผมอ่านไม่ออกซะจนต้อง ลอกมันออกมาใส่โน้ต แล้วหาไฮท์ไลท์ มาขีด คำช่วย ขีด ประธาน อย่างนั้นเลย ขีดผิดไปเยอะด้วยพอให้อาจารย์ตรวจ แบ่งผิดอีก
ท้อชิบหายเลยครับ บางทีการที่คนอื่นมาบอกว่าเรากาก อาจจะจริง...ไม่ได้เว้ยๆ ถ้าเราสิ้นหวังในตัวเองเมื่อไหร่ก็เท่ากับเรายอมรับในคำที่เค้าตราหน้าเราว่ากาก ไว้สิวะ พยายามต่อไปมันต้องพัฒนาขึ้นสิวะ ผมมักจะปลอบใจตัวเองโดยการเปิดไปหน้าก่อนๆที่อ่านผ่านมาได้ ให้เป็นกำลังใจเล็กๆกับตัวเอง
ปีนึงผ่านไป ผมคงยังจำอยู่เล่มหนึ่งที่ไปแค่เกือบๆจะครึ่งเล่ม
หลังๆมาผมเริ่มแอบขำ กับเนื้อหาในนิยายมากขึ้นจากตอนแรกการอ่านที่ ที่ไม่รู้เต็มไปหมด แม้จะสนุกกับการเรียนแต่ไม่สามารถเข้าถึงความสนุกนิยายได้เลย ลองคิดดูนะครับ ใช้เวลาอ่านเป็นอาทิตย์ต่อหน้า กว่าจะเก็ทมุกมันก็ขำไม่ออกแล้วอ่ะ - - แต่หลังๆมา มีบางครั้งที่ผมจะเริ่มยิ้มและสนุกขึ้นมาเล็กๆ แต่ก็อดท้อถอยไม่ได้ ที่ตัวเองอ่านมาเป็นปีแต่ยังไม่ถึงไหนเลย
ปีครึ่งผ่านไป ผมยังจมอยู่กับเล่มแรกเหมือนเดิม
ต้องยอมรับว่าคนเรามันก็มีขีดสุดเหมือนกัน ผมเริ่มหาเหตุผลเข้าข้างตัวเองเพื่อเลิกอ่าน จริงอยู่ว่ามันสนุกที่ได้เรียน แต่ก็ปวดหัวและท้อเหลือเกินว่าความรู้ตัวเองมันไม่ถึงไหน จนอยากจะเลิกแม่งให้หมดขึ้นมาดื้อๆ แต่พอผมจะเลิก ผมมักจะมาทบทวนเสมอว่าผมเรียนไปทำไม เป้าหมายผมคืออะไร ผมเรียนไปเพื่อที่จะอ่านสิ่งที่ผมรักสิ่งที่ผมชอบ ให้ได้ เพราะผมรักและสนุกกับมันไม่ใช่หรือ ถึงได้เรียน และอยากจะพิสูจน์ไม่ใช่หรือไงว่า ว่าอย่างเราก็ทำได้ ผมจึงพยายามมากขึ้นไป ตอนนั้นความฝันผม เป็นแค่ อ่านเล่มเดียวได้ก็บุญแล้ว แต่ตอนนั้นมีคนมาพูดกับผมไว้
"โธ่เราว่ากว่านายจะอ่านได้จบ คงจบไปแล้วไม่ก็หลังจากนั้นแหละ"
ผม ".........."
มันก็อาจจะจริงเมื่อดูสปีดในการอ่านของผมตอนนี้แล้วมันช่าง....ห่วยแตก เรียกว่าอ่านได้รึเปล่ายังไม่รู้เลย ผมจึงตัดสินใจกับตัวเองไว้ ได้เดี๋ยวตรูจะอ่านให้ถึงเล่ม ล่าสุดให้ได้เลย คอยดูเถอะ การตัดสินใจครั้งนี้มีแรงผลักดันอยู่สองส่วน ส่วนแรก คือความที่ตัวเองฝันว่าอยากอ่านให้ได้ เพื่อที่จะได้เฮกับน้องสาว กับ ความอยาก เอาคืนกับคำพูดที่เคยบอกเราไว้ ว่าเราไม่ได้หรอก ไม่ไหวหรอก เพื่อที่จะได้พิสูจน์ตัวเอง ว่ากูก็ทำได้นะ
วันนี้ ผมอ่านถึงเล่ม 10 แล้วครับ >.< แต่ทั้งหมด นี่ไม่ใช่ความสามารถของผมเลยครับ ถ้าไม่มีคนอีกมากมาย ที่ช่วยเหลือผม สอนผม ป่านนี้ผมคงจมอยู่กับหน้าเล่มแรก ไม่ก็เลิกอ่านเป็นแน่ ไม่ว่าจะเป็นเซ็นเซย์หลายๆท่าน หรือพี่เข้ม หรืออากู๋ผม และคนอีกมากมาย อยากจะขอบคุณแล้ว ขอบคุณอีก จนไม่รู้จะขอบคุณยังไงเลยทีเดียว ผมได้อาจารย์ที่ดีครับถึง สามารถทำสำเร็จได้ตามที่หวัง
ตอนนี้แม้ภาษาผมยังกากๆ ก๊องแก๊งอยู่ก็ตาม แต่ผมก็ทำได้ตามที่หวังแล้วนะ พอเข้าซักเล่ม 3 ยิ่งอ่านยิ่งสนุก ย้อนหลับไปอ่านเล่มเก่าๆไอที่ไงๆก็ไม่เก็ท ก็เก็ทได้ สนุกขึ้นเรื่อยๆที่อ่าน จนถึงขั้นสนุกมากๆจนติดอยากอ่านเล่มต่อไปจนทนไม่ไหว ถึงกับฝากเพื่อนไปซื้อเพราะอยากอ่านเร็วขึ้นซักวันก็ยังดี ฮา และถ้าซักวันผมได้เจอคนที่เคยมาบอกผมแต่แรกสุดเลยว่าอย่างผมอ่านไม่ไหวหรอก ผมก็อยากจะเบ่งเล็กๆนิดนึงว่า
"ผมอ่านได้แล้วนา -w- โครตพยายามเลยนะจะบอกให้ "
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น